หลบฉากเพื่อมองลูกทะยานไปข้างหน้า
“สิ่งดี ๆ ที่คุณจะให้แก่ลูกได้คือ รากฐานที่ดี และปีกที่จะโบยบิน” – Hodding Carter
บางครั้ง ฉันก็ได้อ่านบางอย่างที่สะดุดใจ ทำให้ฉันเปลี่ยนมุมมอง และมองเห็นว่าอาจมีวิธีบางอย่างที่ดีกว่าวิธีที่ฉันใช้อยู่ก็ได้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เมื่อฉันอ่านบทสัมภาษณ์เจาะลึก เด็บบี้ เฟลทส์ แม่ของไมเคิล แชมป์ว่ายน้ำระดับโลก ในสัมภาษณ์ เด็บบี้เล่าให้ฟังว่าไมเคิลจัดกระเป๋าว่ายน้ำอย่างไรเมื่อตอนเป็นเด็ก เมื่อเขาลืมแว่นกันน้ำในการแข่งและมองหาแม่อย่างขอความช่วยเหลือ แม่ก็แบมือเปล่าให้ดู และเขาก็ต้องว่ายน้ำไปโดยไม่ได้ใช้แว่น
ฉันต้องยอมรับว่าอ่านแล้วทำใจยากจริง
ๆ
ตอนนั้นฉันยังจัดกระเป๋าว่ายน้ำให้ลูกสาวทั้งคู่อยู่เลย
และฉันรู้ว่าถ้าลืมแว่นกันน้ำ ฉันก็ต้องไปขวนขวายหามาจนได้ ลูกจะได้ไม่แสบตา
ไม่ลำบาก และไม่ล้มเหลว
และฉันก็รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำเป็นการรังแกลูก
ทำไมน่ะรึ?
เพราะลูกที่ตอนนั้นอายุ
8 ขวบและ 5 ขวบนั้น จัดกระเป๋าเองได้แน่ ๆ อยู่แล้ว
กระเป๋าเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
แต่ฉันรู้ดีว่ามีอีกหลายอย่างที่ฉันทำให้ลูก ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอทำได้ด้วยตัวเอง
เหตุผลน่ะเหรอ? เพราะฉันทำเองเร็วกว่า ไม่วุ่นวาย และสะดวกกว่าน่ะสิ
ฉันทำเองแปลว่าโอกาสที่จะลืมของมีน้อยลง
และโอกาสที่ฉันจะต้องฟังเสียงบ่นก็มีน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้น ฉันทำงานเป็นนายสิบฝึกหัดทหารอยู่หลายปี
การที่จะปล่อยสายบังเหียนและปล่อยให้อะไรต่อมิอะไรเป็นไปตามธรรมชาตินี่เป็นเรื่องยากมาก
แต่การทำสิ่งที่ลูกทำได้เองให้ลูก
ก็เท่ากับขวางไม่ให้พวกเค้าได้ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเต็มความสามารถของตัวเอง
ความจริงนั้นเจ็บปวด
แต่ความจริงก็ช่วยเยียวยาด้วย และช่วยทำให้ฉันได้พัฒนาไปเป็นคนและเป็นพ่อแม่แบบที่ฉันอยากจะเป็น
ดังนั้น
ตอนที่เราเตรียมตัวสำหรับการเข้าร่วมทีมว่ายน้ำในฤดูร้อนปีนี้
ฉันจึงรู้ว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่าการซื้อชุดว่ายน้ำใหม่ หรือแว่นกันน้ำอันใหม่
ถึงเวลาที่สาว ๆ จะต้องมีกระเป๋าว่ายน้ำของตัวเองแล้ว
เมื่อฉันบอกลูก
ๆ เรื่องนี้ พวกเธอปลาบปลื้มมาก
พวกเธอมีความสุขกับการคิดว่าจะจัดกระเป๋าสีสดใสของตัวเองอย่างไรดี
ลูกสาวคนโตเสนอให้ซื้อขวดแชมพูและครีมนวดผมเล็ก ๆ จะได้ไปอาบน้ำกันเองหลังการฝึก
ชั่วแวบหนึ่ง ฉันรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาทันที ถ้าลูกลืมชุดว่ายน้ำไว้ในห้องน้ำล่ะ
ถ้าลูกสบู่เข้าตาจะเอาผ้าที่ไหนเช็ด แล้วใครจะบิดชุดว่ายน้ำให้
แล้วฉันก็รู้คำตอบว่า
ลูก ๆ ก็จะทำกันเองน่ะแหล่ะ
ลูก
ๆ ของฉันไม่ใช่แค่ทำได้ แต่พวกเธอพร้อมแล้วที่จะทำอะไรต่อมิอะไรเอง
ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหลบฉากและปล่อยพวกเธอไป
ตลอดสามสัปดาห์ที่ลูก ๆ เอากระเป๋าไปเอง ไปอาบน้ำกันเอง ฉันก็ต้องประหลาดใจว่าไม่มีใครลืมชุดชั้นในสะอาด ๆ ไม่มีใครมีปัญหากับการเช็ดตัวให้แห้ง และไม่มีใครลืมชุดว่ายน้ำไว้ในห้องอาบน้ำเลย และต่อให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้ขึ้นมา ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ก็แค่ไม่สะดวกนิดหน่อย แล้วก็ต้องแก้ปัญหาไปจนได้ ลูกอาจจะต้องควักกระเป๋าตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าโลกจะแตกสักหน่อย
ยิ่งกว่านั้น ฉันยังได้สังเกตเห็นว่า เมื่อเด็ก ๆ ถือกระเป๋าไปกันเอง และอาบน้ำเองโดยไม่ต้องให้แม่ช่วย ความเป็นตัวของตัวเองในเรื่องอื่นก็ฉายชัดขึ้นมาด้วย จริง ๆ แล้ว มันทำให้ฉันเกิดแรงบันดาลใจที่จะไปสมัครเป็นผู้จับเวลา ซึ่งหมายความว่าเด็ก ๆ จะต้องรับผิดชอบการไปเข้ากลุ่มของตัวเองเมื่อมีการประกาศเรียก ชั่วขณะหนึ่งที่ความกังวลพลุ่งพล่านขึ้นมา ถ้าลูกไปไม่ทันล่ะ เกิดลูกสาวคนเล็กมัวแวะข้างทางเพราะเจอเต่าทองหรือไอศกรีมแท่งล่ะ แล้วใครจะช่วยลูกสวมหมวกว่ายน้ำกัน
ตลอดสามสัปดาห์ที่ลูก ๆ เอากระเป๋าไปเอง ไปอาบน้ำกันเอง ฉันก็ต้องประหลาดใจว่าไม่มีใครลืมชุดชั้นในสะอาด ๆ ไม่มีใครมีปัญหากับการเช็ดตัวให้แห้ง และไม่มีใครลืมชุดว่ายน้ำไว้ในห้องอาบน้ำเลย และต่อให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้ขึ้นมา ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ก็แค่ไม่สะดวกนิดหน่อย แล้วก็ต้องแก้ปัญหาไปจนได้ ลูกอาจจะต้องควักกระเป๋าตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าโลกจะแตกสักหน่อย
ยิ่งกว่านั้น ฉันยังได้สังเกตเห็นว่า เมื่อเด็ก ๆ ถือกระเป๋าไปกันเอง และอาบน้ำเองโดยไม่ต้องให้แม่ช่วย ความเป็นตัวของตัวเองในเรื่องอื่นก็ฉายชัดขึ้นมาด้วย จริง ๆ แล้ว มันทำให้ฉันเกิดแรงบันดาลใจที่จะไปสมัครเป็นผู้จับเวลา ซึ่งหมายความว่าเด็ก ๆ จะต้องรับผิดชอบการไปเข้ากลุ่มของตัวเองเมื่อมีการประกาศเรียก ชั่วขณะหนึ่งที่ความกังวลพลุ่งพล่านขึ้นมา ถ้าลูกไปไม่ทันล่ะ เกิดลูกสาวคนเล็กมัวแวะข้างทางเพราะเจอเต่าทองหรือไอศกรีมแท่งล่ะ แล้วใครจะช่วยลูกสวมหมวกว่ายน้ำกัน
ดังนั้นเมื่อมีประกาศเรียกกลุ่มของลูกสาวคนเล็ก
ฉันก็ได้แต่มองอย่างกระวนกระวายอยู่ตรงเลน 5 ตำแหน่งที่ฉันเป็นผู้จับเวลาอยู่
ทันใดนั้น
ลูกสาวทั้งสองของฉันก็กระโดดขึ้นมาแล้วไปเอาหมวกว่ายน้ำกับแว่นกันน้ำอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ตอนแรกเก็บผมไม่สำเร็จ พี่สาวคนโตก็พยายามจนสำเร็จได้
เสร็จแล้วก็พากันเดินเลาะริมสระไปอย่างมั่นใจเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง
ก่อนที่ลูกคนเล็กจะเดินเข้าไป
สองพี่น้องก็แปะมือไฮไฟว์กัน
“โชคดีนะ”
พี่สาวบอกน้อง
และแม้ว่าพี่จะไม่จำเป็นต้องยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว
แต่เธอก็ยังยืนอยู่ครู่หนึ่ง ดูว่าน้องเข้าไปถูกที่แล้ว
ฉันไม่เคยสอนลูกให้ทำอย่างนั้น เธอทำของเธอเอง
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ลูกคนเล็กก็ขึ้นไปยืนบนแท่นและกระโดดพุ่งหลาวลงน้ำ
หลังจากที่เริ่มเรียนจากในน้ำมาตลอด จากขอบสระที่ฉันยืนอยู่
ฉันเห็นหน้าลูกได้อย่างชัดเจน หน้าของลูกดูเบิกบานและภาคภูมิใจแบบปิดไม่มิด
เมื่อพุ่งลงไปที่เลน 3
ตอนลูกโผล่พ้นน้ำขึ้นมาและรับริบบิ้นอย่างภาคภูมิใจ ฉันก็เชียร์แล้วเชียร์อีก แต่ลูกไม่ได้ยิน ลูกไม่ได้มองมาทางฉันด้วยซ้ำ เพราะพี่สาวของเธอยืนอยู่ตรงนั้น รอกอด ชื่นชม และร่วมฉลองกับเธออยู่
ตอนลูกโผล่พ้นน้ำขึ้นมาและรับริบบิ้นอย่างภาคภูมิใจ ฉันก็เชียร์แล้วเชียร์อีก แต่ลูกไม่ได้ยิน ลูกไม่ได้มองมาทางฉันด้วยซ้ำ เพราะพี่สาวของเธอยืนอยู่ตรงนั้น รอกอด ชื่นชม และร่วมฉลองกับเธออยู่
แล้วน้ำตาฉันก็พุ่งออกมาเป็นสาย
ไม่ใช่เพราะเด็ก
ๆ ไม่ได้แม้แต่จะเหลือบมาดูฉัน
ไม่ใช่เพราะต่อจากนี้ไป
ฉันจะเป็นที่ต้องการน้อยลงไปเรื่อย ๆ
ไม่ใช่เพราะเด็ก
ๆ ตัดสินใจได้เองโดยไม่ต้องพึ่งฉัน
ฉันร้องไห้เพราะฉันได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
ฉันได้เห็นว่าลูก ๆ จะใช้ศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่
และฉันก็รู้ว่าจะเห็นช่วงเวลาแบบนี้ได้จากระยะไกลเท่านั้น
ฉันแอบปลื้มใจอยู่เงียบ ๆ เมื่อถอยออกมา ดูลูก ๆ ทะยานไปข้างหน้าพร้อม ๆ
ไปกับความรักและแรงสนับสนุนจากฉันบนไหล่เล็ก ๆ ที่มั่นคงของพวกเค้า
*****************************************************************************************************************************************
เมื่อสักปีที่ผ่านมา ฉันจำได้ว่าฉันกังวลเกี่ยวกับการที่ลูกพึ่งตัวเองไม่ได้
ทั้งการดูแลข้าวของและเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อฉันป่วยและสามีก็ไม่อยู่ เด็ก ๆ
ไม่ใช่เพียงแต่ดูแลฉัน แต่ยังดูแลกันเองและทำงานบ้านต่าง ๆ ที่ฉันเคยทำให้ด้วย
ฉันจึงได้ตระหนักว่าที่ฉันมองว่าเด็ก ๆ พึ่งพาตัวเองไม่ได้นั้น จริง ๆ
แล้วเป็นเพราะขาดโอกาสต่างหาก
ประสบการครั้งนั้นช่วยจุดประกายให้ฉันก้าวต่อไปในขั้นตอนของการปล่อยวาง เมื่อเด็ก
ๆ ได้มีหน้าที่ความรับผิดชอบมากขึ้น ก็มีเรื่องผิดพลาดและยุ่งเหยิงมากขึ้น
แต่อีกอย่างที่มากขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือ ลูก ๆ มีความเชื่อมั่นในตัวเองและมีความสามารถในการตัดสินใจได้มากขึ้นและดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉันจึงตระหนักว่าถ้าฉันต้องการให้ลูกรับผิดชอบในการตัดสินใจของตัวเองได้ ฉันก็จะต้องหลบไปข้าง
ๆ และปล่อยให้ลูก ๆ ได้ตัดสินใจเอง
#ปล่อยลูกช่วยตัวเอง
#พ่อแม่รังแกฉัน #เป็นตัวของตัวเอง